LFPTH : ลาลีก้า สเปน ลีกอันดับหนึ่งของวงการลูกหนัง

ตอนนี้ทางบล็อคได้ทำการ เปลี่ยนระบบ comment จากของ blogger เป็นระบบ disqus.... อ่านรายละอียดเพิ่มเติม (คลิ๊ก)

วันศุกร์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2552

หน้าหนึ่งหนาวนี้...



ช่วงปิดหนีหนาวกลางฤดูกาลแบบนี้ บอลก็ไม่ค่อยจะมี ซื้อตัวปีนี้ก็ไม่ค่อยคึกคัก (ตังหมดตั้งแต่ซัมเมอร์แล้วมั้ง...) กลับกลายเป็นผู้จัดการทีมทั้งหลายที่ขโมยซีนขึ้นหน้าหนึ่งอยู่บ่อยครั้ง วันนี้มีข่าวของผู้จัดการทีมสามคนในลาลีก้ามาฝาก

__________________________


มาดูทางฝั่งของ เรอัล ซาราโกซ่า กันก่อนดีกว่า ซาราโกซ่า หลังจากปลด มาร์เซลิโน่ การ์เซีย (ซึ่งผมคิดว่าปลดเร็วเกินไปเปล่า...) พึ่งโดน เรอัล มาดริด ชวนเล่นเทนนิสไปหมาดๆ ก่อนแพ้ไป 6-0 เซ็ต โดยซาราโกซ่าชุดนั้นมี โฆเซ่ ออเรลิโอ กาย(คนขวาของภาพด้านบน) เทรนเนอร์ทีมชุดบีซึ่งขึ้นมากุมบังเหียนชั่วคราว พอหลังจบเกมส์แพ้ยับมา สื่อก็คาดว่า กายไม่รอดแน่ๆ ส่วนตัวเต็งที่จะมายึดเก้าอี้ก็ไม่น่าจะพ้น วิคตอร์ มูนยอซ สวมบทซุปเปอร์แมน รีเทิร์นกลับมาคุมทีมอีกครั้ง

(ถ้าใครจำได้ ปีแรกๆที่คุมซาราโกซ่า มูนยอซ ได้ยกย่องให้เป็นหนึ่งในกุนซือที่น่าจับตามองที่สุดในสเปนเลยก็ว่าได้ {ตอนฟอร์มดีๆเคยชวน เรอัล มาดริด ช่วงกาลาคติกอสแรก ตีเทนนิสมาแล้วด้วย...ถ้าใครจำได้ในโคปาเดลเรย์ขย้ำ 6-1!} ก่อนจะฟอร์มแผ่วลงไปแล้วก็โดนปลดในที่สุด)

แต่แล้วสื่อก็คาดการผิดครับ! กายได้โอกาสอยู่ต่อ โดยทาง เรอัล ซาราโกซ่า ได้ออกมายืนยันผ่านเวปไซต์สโมสรแล้วว่าจะให้ โฆเซ่ ออเรลิโอ กาย อยู่ทำหน้าที่ต่อจนจบฤดูกาล.... ได้รับความเชื่อมั่นขนาดนี้ ก็ขึ้นอยู่กับว่า กายจะฉวยโอกาสได้รึเปล่าก็แค่นั้น น่าติดตามว่าช่วงตลาดซื้อขายที่เหลือจะมีใครเดินเข้าเดินออกถิ่น ลา โรมาเรด้า บ้าง...

__________________________



อีกข่าวนึงที่เอามาฝากก็คือการแต่งตั้ง ลิโญ่(คนซ้ายของภาพด้านบน) เจ้าของสถิติผู้จัดการทีมที่อายุน้อยที่สุดในลาลีก้าในวัยแค่ 26ปี (ตอนนี้ 44 แล้ว) ของทางฝั่ง อัลเมเรีย ซึ่งจะเปิดตัวในวันจันทร์หน้า หลังจากไปปลด ฮูโก้ ซานเชส อดีตนักเตะตำนานสโมสร เรอัล มาดริด ออกไป

ถ้าถามผม ผมว่าน่าเห็นใจ ซานเชสนะ ถึงสไตล์การคุมทีมน่าเบื่อ (ขนาดเป็นกองหน้าสมัยนักเตะ) มากถึงมากที่สุด แต่บอร์ดก็ไม่ให้เวลาบริหารเท่าที่ควร จริงๆผมมองว่า ซานเชส ไม่ได้คุมทีมด้อยกว่าผู้จัดการทีมก่อนๆหรอก (อาจจะด้วยกว่า แต่ไม่ด้อยขนาดที่มันดูเหมือนจะเป็น) แต่สิ่งที่มันทำให้ผลงานตกลงขนาดนี้ก็น่าจะเป็นการขาดหายไปของ อัลวาโร่ เนเกรโด้ มากกว่า ตั้งแต่เปิดฤดูกาล อัลเมเรีย ไม่ใช่ทีมเดียวกับสองฤดูกาลก่อนเลย เพราะฉะนั้น ลิโญ่ ก็เป็นอีกหนึ่งกุนซือที่น่าจับตามองเช่นกันว่าจะสามารถทดแทนการขาดไปของ เนเกรโด้ ได้เนียนแค่ไหน และ ตลาดนี้จะหาใครมาแก้ปัญหาทีม? น่าติดตาม...


__________________________


ส่วนรายข้างล่างสุดในภาพ ไม่น่าจะมีใครไม่รู้จักแล้วในเวลานี้สำหรับ แป็ป กวาดิโอล่า(คนไหนคงไม่ต้องบอก...{ก็เหลืออยู่คนเดียว!}) กุนซือคนเก่งของบาร์ซ่า ตอนนี้ถูกลาปอร์ต้าง้อให้ต่อสัญญาระยะยาวออกไป โดนง้อหลายต่อหลายครั้ง แป็ปก็ยังไม่ให้คำตอบ ส่วนสัญญาของแป็ปก็กำลังจะหมดลงไม่ช้านี้ โดย 18 เดือนที่แล้วเขาเซ็นสัญญากับบาร์ซ่าเป็นเวลา 2 ปี (24 เดือน - 18 เดือน = 6 เดือน) เหลือเวลาอีกแค่ครึ่งปีก่อนสัญญาจะหมดลง

มันก็ชัดเจนว่าแป็ปคงอยากรอดูนโยบายของผู้สมัครของแต่ละรายในการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นช่วงซัมเมอร์นี้ และค่อยมาวิเคราะห์สถานการณ์ของสโมสรและตัวเอง ก่อนจะตัดสินใจเซ็นสัญญายาว ตอนนี้นโยบายของแต่ละคนยังไม่ชัดเจน (ไว้ในโอกาสต่อไปกะว่าจะเขียนบทความเต็มๆเกี่ยวกับ แป็ป และ อนาคตหลังการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น)แฟนบอลคงต้องตามกันต่อไปหล่ะ...



อ่านรายละเอียดเกี่ยวกับการเลือกตั้งเพิ่มเติม:
เลือกตั้ง I : โจน ลาปอร์ต้า (2003-2010)
เลือกตั้ง II : โจน ลาปอร์ต้า (2003-2010)

วันพฤหัสบดีที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2552

¡Feliz Navidad! ครับทุกคน!!




Feliz Navidad ครับ แฟนๆลาลีก้า และครอบครัว LFPthailand ทุกคน!
ถึงแม้เรายังไม่ได้หยุดเหมือนเมืองนอกเขาก็ตามเหอะ... (เหอๆ)

ขอให้ทีมจากลาลีก้า และ ทีมชาติสเปน ได้แชมป์!
(ขอให้มาดริดเยอะกว่าหน่อย ฮ่าๆ....อะ ฮึ่ม...เป็นกลาง... ฮ่ะๆ)



ขอให้ทุกคนแฮปปี้มีความสุขกับ LFPthailand ในปี 2010 ข้างหน้านะครับ!
ถ้าหากมีข้ออะไรข้างคาใจ หรือ อยากจะแนะนำอะไร หรือจะอยากให้
ผมเขียนบทความเกี่ยวกับอะไร (เกี่ยวกับบอลสเปนนั่นแหละ) อยากรู้
อยากได้รูป หรืออะไรก็ตาม ลองส่งเมลมา หรือไม่ก็บอกไว้ใน comment ก็ได้ ไม่ต้องเกรงใจครับ!! เต็มที่!
จะพยายามปรับปรุงทำให้ LFPthailand น่าอยู่ที่สุดครับ!


"Feliz Navidad" - LFPthailand

(25/12/09!) ¡Feliz Navidad! - ส่งตรงจากจากสเปน!


ปี 2009 ที่กำลังจะผ่านไปฟุตบอลสเปนถือว่ามีสีสรรค์มากมายเหลือเกิน ถือว่าเป็นอีกปีนึงที่โลกหันมาให้ความสนใจกับลีกลาลีก้า การสร้างประวัติศาสตร์ของบาร์เซโลน่าโดยการคว้าแชมป์ 6 รายการ ไม่เคยมีทีมไหนทำได้มาก่อน และในอนาคตจะมีอีกรึเปล่าก็ไม่รู้ โดยมี แป็ป กวาดิโอล่า เป็นผู้จัดการทีม และได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในผู้จัดการทีมที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ไปแล้ว ขับเคลื่อนด้วยเด็กจาก "La Masia" ไม่ว่าจะเป็น อินเนสต้า, ซาบี, ปีเก้, กัปตันปูโยล และ มีซุปเปอร์สตาร์อันดับหนึ่งของโลกในเวลานี้ ซึ่งกวาดทุกรางวัลที่เข้าชิงทุกรางวัล และ กวาดเรียบ! (ยกเว้นนักกีฬายอดเยี่ยมแห่งปีของอาเจนติน่า) ลิโอเนล เมสซี่ ปี 2009 นี่ถือว่าเป็นปีทองของนักบอลตัวเล็ก(ผิดกับความสามารถ)อย่างแท้จริง..

ทางฝั่งเมืองหลวงการกลับมากู้ชื่อเสียงของ ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ซึ่งมาพร้อมกับกล่องของขวัญกล่องใหญ่มูลค่า 250 ล้านยูโรเนรมิตรเทรนด์ "galacticos" อีกครั้ง คว้าสองดาราบัลลังค์ดอร์สองในสามครั้งล่าสุด

ส่วนในปี 2010 แฟนๆบอลลาลีก้าคงพูดได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่า คงมีเรื่องให้ตื่นเต้นไม่น้อยไปกว่าเดิมแน่นอน! บาร์เซโลน่า ชุดที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ คงจะขับเขี้ยวกับ กาลาคติกอส อย่างมันส์จนถึงหยดสุดท้ายแน่นอน ในเวทียุโรป น่าจับตามองทีมจากสเปนทั้งสามทีมว่าจะทำได้ดีแค่ไหน เรอัล มาดริด คงไม่อยากจะสดุดรอบ 16 ทีมอีกแล้ว เพราะหากเป็นเช่นนั้น 254 ล้านยูโรที่เสียไป... เฮ้ออ คงไม่พ้นจากการโดนซ้ำเติมจากสื่อ และไม่แน่ เราอาจจะได้เห็น กาลาคติกอส สามเร็วกว่าที่คิด แต่ถ้าหากพวกเขาผ่านรอบ 16 ทีมไปได้ ไม่แน่ รอบชิงที่เบอร์นาบิว เป้าหมายอาจจะไม่ไกลเกินเอื้อม

ส่วนบาร์ซ่า พวกเขาแน่นอน ต้องการป้องกันแชมป์ และ ต้องการตอกย้ำความสำเร็จจากปี 2009 อาจจะทำไม่ได้ดีเท่า (เพราะมันคงดีไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว) แต่จะทำได้ดีแค่ไหนก็ต้องตามดู นอกจากนี้ ทางฝั่งบาร์ซ่ายังคงต้องตามผลเลือกตั้งประธานสโมสร ซึ่งคงจะส่งผลต่อแนวโน้มนโยบายของสโมสรในอนาคตแน่นอน

และสุดท้าย ไฮไลท์ประจำปี 2010 ของวงการฟุตบอล รายการฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก... บอลโลก... สเปน ชุดที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ (หลายๆคนเชื่ออย่างนั้น) จะตอกย้ำความสำเร็จจากศึก ยูโร ได้หรือไม่ หลักจากไปพลาดท่าให้ อเมริกา ในคอนเฟด จะทำให้ทุกคนลืมฉายา "สิงห์สนามซ้อม หมูสนามจริง" ได้หรือไม่...?

2010...










ภาพ: realmadrid.com


*ดูขนาดเต็มคลิ๊กเข้าไปในรูป

เลือกตั้ง II : โจน ลาปอร์ต้า (2003-2010)

เลือกตั้ง I : โจน ลาปอร์ต้า (2003-2010)

โจน ลาปอร์ต้า หลายๆคนยกย่องว่าเขาเป็นหนึ่งในประธานสโมสรฟุตบอลที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของวงการฟุตบอล การที่จะเป็นประธานสโมสรฟุตบอลที่ดีต้องมีคุณสมบัติและความสามารถในสามเรื่องหลักๆคือ ด้านสังคม ด้านการกีฬา และด้านการเงิน .... จริงหรอ? ถ้าอย่างนั้นในสเปนทำไมถึงมีคนต่อต้าน ลาปอร์ต้าหล่ะ...



เอ... ทำไมสัญลักษณ์สองอันมันคล้ายๆกันอย่างพูดไม่ออกบอกไม่ถูก... เราแฟนๆลาลีก้ารู้ๆกันอยู่ว่าอันฝั่งซ้ายคือทีมอะไร ส่วนฝั่งขวา...เอ่อ.. บนนั้นมันเขียนว่า "บุนยอดกอร์"

หลายๆคนคุ้นๆหูกับชื่อทีมนี้ แต่อาจจะนึกไม่ออกว่าไปทำอะไรถึงคุ้นนักคุ้นหนา... ทีมนี้แหละเป็นทีมที่เซ็น ริวัลโด้ มาเล่นให้ช่วงนึง .... ทีมนี้แหละที่สร้างสนามใหม่มูลค่า 150 ล้านดอลล่า ทั้งๆที่สนามเก่าใช้ได้ไม่ถึงปี... ทีมนี้แหละเป็นทีมที่เซ็น ซิโก้ มาเป็นผู้จัดการทีม (ก่อนที่จะย้ายไป ซีเอสเคเอ มอสโคว์).... ทีมนี้แหละเป็นทีมที่เซ็นหลุยส์ เฟลิเป้ สโคลารี่มาคุมทีมโดยให้ค่าจ้างถึง 13 ล้านยูโรต่อปี (แพงกว่าผู้จัดการที่เงินดีที่สุดเวลานั้นอย่าง โฆเซ่ มูรินโญ่ ที่รับอยู่ 11 ล้านต่อปีที่ อินเตอร์มิลาน)....ทีมนี้แหละที่เสนอเงินให้เอโต้ถึง 25 ล้านยูโรเพื่อมาเล่นให้เวลาไม่กี่เดือน (ก่อนทีเอโต้จะปฏิเศษ ทั้งๆที่ยอมรับว่าอึ้งกับจำนวนเงินมาก)...ทั้งหมดนี้เกิดภายในระยะเวลาสั้นๆ....แล้วจะให้ไม่คุ้นชื่อได้ไง!

บุนยอดกอร์ เป็นทีมในประเทศ อุสเบกิสถาน ซึ่งติดกับ อัฟกานิสถาน ประเทศอุสเบกิสถานถือเป็นประเทศที่นิยมความรุนแรง มีข่าวหลุดออกมาหลายต่อหลายครั้งว่ามีการทรมานคนโดยวิธีอันโหดร้ายมากมาย สิทธิมนุษยชนต่ำติดดิน

ทั้งหมดนี้เกิดภายใต้การมี Karimov เป็นประธานาธิบดี เป็นมาได้กว่า 2 ทศวรรษแล้ว เขามีลูกสาวอยู่หนึ่งคน และเป็นคนที่เขาหวังให้มาคุมประเทศต่อจากเขาชื่อ Gulnara และ ลูกสาวคนนี้นี่เอง ที่เป็นคนดูแลสโมสร บุนยอดกอร์ อยู่ข้างหลังทั้งหมด (คอยชักใย Miradil Djalalov นักธุรกิจร่ำรวย ซึ่งมีชื่อเป็นเจ้าของสโมสร) การที่มีคนในวงการการเมืองมาเกี่ยวพันกับสโมสรโดยเฉพาะประเทศที่อำนาจถูกผูกมัดไว้กับคนกลุ่มหนึ่ง ทำให้ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมกำลังเงินของสโมสรมันมากมายขนาดนี้ ตามข่าวบอกว่า ที่เขามาทำสโมสรฟุตบอลก็เพื่อเป็นการหาเสียงของเธอไปในตัว ให้ผู้คนยอมรับเพื่อปูทางไปเป็นตัวตายตัวแทนพ่อในอนาคต

เอ๊ะ! แล้วจะมาให้อ่านทำไมเนี่ย มันเกี่ยวกับ ลาปอร์ต้า ตรงไหน!! เอ่อ... ใจเย็น ใกล้แล้ว...

การที่ บุนยอดกอร์ มีสัญลักษณ์ทีมคล้ายคลึงกับ บาร์เซโลน่า ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ (ก็พึ่งมาใช้เมื่อไม่กี่ปีเอง) การที่บุนยอดกอร์มาขอดึงตัว เอโต้ หรือ ซื้อนักเตะเก่าบาร์ซ่าอย่าง ริวัลโด้ ก็ไม่ใช่เรื่องบังเอิญเหมือนกัน สองทีมนี้มีความสัมพันธ์กันลึกซึ้งกว่านั้น...

บาร์เซโลน่า นำโดยประธาน โจน ลาปอร์ต้า ทำสัญญาร่วมมือกับทางด้าน บุนยอกอร์ นอกจากนั้นทาง โจน ลาปอร์ต้า ยังเคยตอบรับข้อเสนอ 4 ล้านยูโร จากทาง บุนยอกอร์ เพื่อไปเตะฝึกซ้อมกับนักเตะฝั่งนั้นด้วย (มกราปีก่อน)



การที่สโมสรที่อาสาสมัครให้โครงการการกุศลที่ช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาส มารับเงินที่มาจากการทรมานการเข่นฆ่า จึงทำให้เกิดประเด็น เป็นที่ค้างคาใจของแฟนๆฟุตบอล และ ถือเป็นอีกหนึ่งจุดด่างในบันทึกผลงานของ โจน ลาปอร์ต้า




นอกจากนั้นที่ทำให้เกิดประเด็นแรงขึ้นไปอีกคือส่วนร่วมของ โจน ลาปอร์ต้า ในการขายสโมสร เรอัล มายอร์ก้า...ดุเหมือนไม่น่าจะเป็นไปได้ที่ ประธานสโมสร บาร์เซโลน่า จะไปมีอะไรเกี่ยวข้องกับการขายสโมสรอื่นในประเทศ

ทางฝั่งผู้บริหาร เรอัล มายอร์ก้า ต้องการให้นายทุนมีตังมาลงทุนมาซื้อสโมสร ภายหลังมีบริษัท Zemorax เสนอข้อเสนอขอซื้อมาในราคา 60 ล้านยูโร โดยค้นไปค้นมา Zemorax ถึงแม้จะเป็นบริษัทที่จดทะเบียนใน เมือง ซูริก ประเทศ สวิสเซอร์แลนด์ แต่ธุรกิจส่วนใหญ่ดันไปอยู่ใน อุซเบกิสถาน จึงทำให้เกิดข้อสงสัยว่ามันจะเป็นไปได้ไหมที่ทาง บาร์เซโลน่า ซึ่งมีสายสัมพันธ์กับทาง อุซเบ จะมีส่วนร่วมในการเทคโอเวอร์ เรอัล มายอร์ก้า

และเครื่องหมายคำถามก็ได้กระจ่างภายหลัง เมื่อ El Mundo หนังสือพิมพ์ประจำแคว้น กาตาลัน ได้ไปค้นชื่อของผู้บริหารของบริษัท Zemorax ปรากฏว่า บริษัทนี้นำโดยนักธุรกิจนามว่า Miradil Djalalov... ซึ่งเป็นคนเดียวกับที่มีชื่อเป็นเจ้าของสโมสร บุนยอดกอร์ เรื่องนี้จึงเป็นอีกประเด็นนึงที่ ลาปอร์ต้าถูกนำมาโจมตีหลายต่อหลายครั้ง

เมื่อสองเรื่องนี้ถูกสื่อขุดคุ้ยออกมา ทำให้เรื่องภาพลักษณ์ของสโมสรเน่าไปพักนึงเลยทีเดียว ทั้งนี้คนที่ถูกโจมตีมากสุดก็หนีไม่พ้น ลาปอร์ต้า ซึ่งเป็นคนอยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมด

มีผู้คนถือว่าจำนวนมากทีเดียวที่ต่อต้านประธาน โจน ลาปอร์ต้า โดยบอกว่าถึงแม้ผลงานในสนามจะถือว่าประสบความสำเร็จ และเป็นที่ยอมรับว่า ดีที่สุดตั้งแต่ก่อตั้งสโมสรมา แต่ความสำเร็จเหล่านั้นมันไม่ได้เกิดเพราะการบริหารของบอร์ด แต่เป็นความสำเร็จทีเกิดจากผู้เล่น และ ผู้จัดการทีมมากกว่า ส่วนเรื่องการเงิน ทั้งๆที่เป็นทีมที่ประสบความสำเร็จมากมายในช่วงที่ผ่านมา เรียกว่าประสบความสำเร็จสูงที่สุดในบรรดาสโมสรในยุโรปก็ว่าได้ แต่กลับทำเงินเข้าคลังไม่ได้เท่าที่ควร เมื่อเทียบกับสโมสรชั้นนำอื่นๆ

ส่วนใหญ่ในผู้คนจำนวนนั้น(พวกที่ไม่ชอบ) รับไม่ได้ที่เขาใช้สโมสร บาร์เซโลน่า เพื่อปูทางตัวเองไปสู่วงการการเมืองในอนาคต พวกเขาคิดว่าสโมสรอย่าง บาร์เซโลน่า ซึ่งเป็นตัวแทนของคนชาวกาตาลัน ไม่ใช่บันไดให้ใครมาปีนเพื่อหวังผลกับตัวเอง

อีกจำนวนหนึ่งก็โจมตีเรื่องความไม่โปร่งใสของบอร์ดบริหารชุดนี้ ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ ลาปอร์ต้า รับรองตั้งแต่วันแรกที่ก้าวเข้าสู่สโมสร นอกจากเหตุการณ์อื้อฉาวใน อุซเบกิสถาน แล้ว ยังมีเรื่องไม่โปร่งใสอีกมากมายที่เป็นเป้าโจมตี ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ที่ลาปอร์ต้าได้จ้างคนมาสืบรองประธานของสโมสร 4 คน จนเกือบเป็นเรื่องใหญ่ แต่ภายหลังก็เคลียร์กันรู้เรื่อง


หรืออย่างเหตุการณ์ล่าสุดหลังแมตช์กับ เรอัล มาดริด ที่ลาปอร์ต้าดันไปฉลองซะหนัก หลายๆฝ่ายก็ได้เห็นเหตุการณ์ดังกล่าวและออกมาโจมตีว่าเป็นถึงประธานสโมสร ไม่น่าจะทำแบบนี้ ทำให้ภาพลักษณ์สโมสรเสียหมด... ก็อย่างนี้แหละ จะเลือกตั้งอยู่แล้วช่วงนี้ทำอะไรก็เลยโดนจับตาเยอะหน่อย

จะเป็นประธานที่ดี หรือไม่ดี มันก็ไม่สามารถเปลี่ยนสิ่งที่คนในอนาคตมองกลับมาได้ว่า "โจน ลาปอร์ต้า เป็นประธานของบาร์เซโลน่า ถึงช่วงซัมเมอร์ปี 2010 โดยช่วงระหว่างที่เขาเป็นถือเป็นช่วงเวลาที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร" ได้

วันพุธที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2552

NEXT STATION: พรีเมียร์ลีก อังกฤษ



Villa: "Me gusta mucho la ''Premier''
Villa: "I like the Premier League a lot."
Villa: "ผมชอบพรีเมียร์ลีกมากๆ"

ล่าสุดหัวหอกของ บาเลนเซีย ทีมชาติสเปน ดาวิด บีย่า ออกมาให้สัมพาทย์กับ The Times หนังสือพิมพ์ชั้นนำที่มีเครดิตพอสมควร (ต่างจากพวก แทปลอย ต่างๆ)ว่าเขาก็สนใจในการย้ายทีมในช่วงซัมเมอร์ 2010 เหมือนกัน โดยการย้ายทีมก็ไม่ใช่จะไปไหนไกล พรีเมียร์ลีกอังกฤษ ลีกที่ได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศไทย!! (... อ่านะ)

เขาให้สัมพาทย์ว่า เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา เขาปฏิเศษข้อเสนอในการย้ายทีมไปต่างแดน (ชัดเจนว่าตอนซัมเมอร์อยากไปแค่ มาดริด กับ บาร์ซ่า)เพราะภารยายังตั้งท้องอยู่ และ เขาคิดว่ามันคงไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม ผมชอบพรีเมียร์ลีกมากๆ ลาลีก้ากับพรีเมียร์เป็นสองลีกที่ผมตามติด ผมมีเพื่อนเล่นอยู่ที่นั่นมากมาย สำหรับตอนนี้ คงต้องทำผลงานให้ดีที่สุด ยิงให้เยอะที่สุดกับสโมสรและทีมชาติ พอถึงตอนซัมเมอร์ ค่อยมานั่งวิเคราะห์กันอีกที

ถ้าจะย้ายจริงๆคงไม่ใช่ในช่วงเบรกหนีหนาวสั้นๆนี้เป็นข่าวร้ายให้กับแฟนค้างคาวที่กำลังฉลองคริสมาสต์กับผลงานโดยรวมของสโมสรอยู่ แต่คงเป็นในซัมเมอร์ และทางสโมสรคงไม่รั้งไว้แน่ๆ เพราะเงินค่าตัวของเขาอย่างต่ำๆ 50ล้านยูโร คงช่วยสถานการณ์การเงินภายในสโมสรที่มีข่าวว่ายังมีหนี้อยู่ถึง 600 ล้านยูโร (นี่น้อยลงกว่าเดิมเยอะแล้วนะเนี่ย...จากการไปกู้ธนาคารมาทำให้ปลายฤดูกาลก่อน ทำให้มีเงินจ่ายค่าจ้างนักเตะและยังไม่ล้มละลาย + ล้มเลิกแผนการสร้างสนามใหม่) ได้พอสมควร

สำหรับแฟนๆแล้ว นอกจากบีย่า ยังต้องลุ้นด้วยว่าสโมสรจะขายสตาร์คนอื่นๆออกไปอีกรึเปล่า ไม่ว่าจะเป็นคู่หูในแนวรุกอย่าง ซิลบา ที่มีข่าวกับสโมสรทั้งในสเปนและอังกฤษ หรือดาวรุ่งพุ่งแรงที่ติดทีมชาติสเปนไปแล้วอย่าง มาต้า ก็ตกอยู่ในข่ายเป็นไปได้ที่จะย้ายสังกัดทั้งนั้น



สโมสรที่อยากได้บีย่าคงหนีไม่พ้นพวก แมนยู เชลซี ลิเวอร์พูล และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ งานนี้เจ้าค้างคาวบาเลนเซียคงได้ทีโก่งให้หายเมื่อยไปเลย
ติดต่อ โฆษนา แนะนำ สอบถาม ฝากข่าวประชาสัมพันธ์ ได้ที่
 
Web Analytics