LFPTH : ลาลีก้า สเปน ลีกอันดับหนึ่งของวงการลูกหนัง

ตอนนี้ทางบล็อคได้ทำการ เปลี่ยนระบบ comment จากของ blogger เป็นระบบ disqus.... อ่านรายละอียดเพิ่มเติม (คลิ๊ก)

วันพฤหัสบดีที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2552

เลือกตั้ง II : โจน ลาปอร์ต้า (2003-2010)

เลือกตั้ง I : โจน ลาปอร์ต้า (2003-2010)

โจน ลาปอร์ต้า หลายๆคนยกย่องว่าเขาเป็นหนึ่งในประธานสโมสรฟุตบอลที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของวงการฟุตบอล การที่จะเป็นประธานสโมสรฟุตบอลที่ดีต้องมีคุณสมบัติและความสามารถในสามเรื่องหลักๆคือ ด้านสังคม ด้านการกีฬา และด้านการเงิน .... จริงหรอ? ถ้าอย่างนั้นในสเปนทำไมถึงมีคนต่อต้าน ลาปอร์ต้าหล่ะ...



เอ... ทำไมสัญลักษณ์สองอันมันคล้ายๆกันอย่างพูดไม่ออกบอกไม่ถูก... เราแฟนๆลาลีก้ารู้ๆกันอยู่ว่าอันฝั่งซ้ายคือทีมอะไร ส่วนฝั่งขวา...เอ่อ.. บนนั้นมันเขียนว่า "บุนยอดกอร์"

หลายๆคนคุ้นๆหูกับชื่อทีมนี้ แต่อาจจะนึกไม่ออกว่าไปทำอะไรถึงคุ้นนักคุ้นหนา... ทีมนี้แหละเป็นทีมที่เซ็น ริวัลโด้ มาเล่นให้ช่วงนึง .... ทีมนี้แหละที่สร้างสนามใหม่มูลค่า 150 ล้านดอลล่า ทั้งๆที่สนามเก่าใช้ได้ไม่ถึงปี... ทีมนี้แหละเป็นทีมที่เซ็น ซิโก้ มาเป็นผู้จัดการทีม (ก่อนที่จะย้ายไป ซีเอสเคเอ มอสโคว์).... ทีมนี้แหละเป็นทีมที่เซ็นหลุยส์ เฟลิเป้ สโคลารี่มาคุมทีมโดยให้ค่าจ้างถึง 13 ล้านยูโรต่อปี (แพงกว่าผู้จัดการที่เงินดีที่สุดเวลานั้นอย่าง โฆเซ่ มูรินโญ่ ที่รับอยู่ 11 ล้านต่อปีที่ อินเตอร์มิลาน)....ทีมนี้แหละที่เสนอเงินให้เอโต้ถึง 25 ล้านยูโรเพื่อมาเล่นให้เวลาไม่กี่เดือน (ก่อนทีเอโต้จะปฏิเศษ ทั้งๆที่ยอมรับว่าอึ้งกับจำนวนเงินมาก)...ทั้งหมดนี้เกิดภายในระยะเวลาสั้นๆ....แล้วจะให้ไม่คุ้นชื่อได้ไง!

บุนยอดกอร์ เป็นทีมในประเทศ อุสเบกิสถาน ซึ่งติดกับ อัฟกานิสถาน ประเทศอุสเบกิสถานถือเป็นประเทศที่นิยมความรุนแรง มีข่าวหลุดออกมาหลายต่อหลายครั้งว่ามีการทรมานคนโดยวิธีอันโหดร้ายมากมาย สิทธิมนุษยชนต่ำติดดิน

ทั้งหมดนี้เกิดภายใต้การมี Karimov เป็นประธานาธิบดี เป็นมาได้กว่า 2 ทศวรรษแล้ว เขามีลูกสาวอยู่หนึ่งคน และเป็นคนที่เขาหวังให้มาคุมประเทศต่อจากเขาชื่อ Gulnara และ ลูกสาวคนนี้นี่เอง ที่เป็นคนดูแลสโมสร บุนยอดกอร์ อยู่ข้างหลังทั้งหมด (คอยชักใย Miradil Djalalov นักธุรกิจร่ำรวย ซึ่งมีชื่อเป็นเจ้าของสโมสร) การที่มีคนในวงการการเมืองมาเกี่ยวพันกับสโมสรโดยเฉพาะประเทศที่อำนาจถูกผูกมัดไว้กับคนกลุ่มหนึ่ง ทำให้ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมกำลังเงินของสโมสรมันมากมายขนาดนี้ ตามข่าวบอกว่า ที่เขามาทำสโมสรฟุตบอลก็เพื่อเป็นการหาเสียงของเธอไปในตัว ให้ผู้คนยอมรับเพื่อปูทางไปเป็นตัวตายตัวแทนพ่อในอนาคต

เอ๊ะ! แล้วจะมาให้อ่านทำไมเนี่ย มันเกี่ยวกับ ลาปอร์ต้า ตรงไหน!! เอ่อ... ใจเย็น ใกล้แล้ว...

การที่ บุนยอดกอร์ มีสัญลักษณ์ทีมคล้ายคลึงกับ บาร์เซโลน่า ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ (ก็พึ่งมาใช้เมื่อไม่กี่ปีเอง) การที่บุนยอดกอร์มาขอดึงตัว เอโต้ หรือ ซื้อนักเตะเก่าบาร์ซ่าอย่าง ริวัลโด้ ก็ไม่ใช่เรื่องบังเอิญเหมือนกัน สองทีมนี้มีความสัมพันธ์กันลึกซึ้งกว่านั้น...

บาร์เซโลน่า นำโดยประธาน โจน ลาปอร์ต้า ทำสัญญาร่วมมือกับทางด้าน บุนยอกอร์ นอกจากนั้นทาง โจน ลาปอร์ต้า ยังเคยตอบรับข้อเสนอ 4 ล้านยูโร จากทาง บุนยอกอร์ เพื่อไปเตะฝึกซ้อมกับนักเตะฝั่งนั้นด้วย (มกราปีก่อน)



การที่สโมสรที่อาสาสมัครให้โครงการการกุศลที่ช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาส มารับเงินที่มาจากการทรมานการเข่นฆ่า จึงทำให้เกิดประเด็น เป็นที่ค้างคาใจของแฟนๆฟุตบอล และ ถือเป็นอีกหนึ่งจุดด่างในบันทึกผลงานของ โจน ลาปอร์ต้า




นอกจากนั้นที่ทำให้เกิดประเด็นแรงขึ้นไปอีกคือส่วนร่วมของ โจน ลาปอร์ต้า ในการขายสโมสร เรอัล มายอร์ก้า...ดุเหมือนไม่น่าจะเป็นไปได้ที่ ประธานสโมสร บาร์เซโลน่า จะไปมีอะไรเกี่ยวข้องกับการขายสโมสรอื่นในประเทศ

ทางฝั่งผู้บริหาร เรอัล มายอร์ก้า ต้องการให้นายทุนมีตังมาลงทุนมาซื้อสโมสร ภายหลังมีบริษัท Zemorax เสนอข้อเสนอขอซื้อมาในราคา 60 ล้านยูโร โดยค้นไปค้นมา Zemorax ถึงแม้จะเป็นบริษัทที่จดทะเบียนใน เมือง ซูริก ประเทศ สวิสเซอร์แลนด์ แต่ธุรกิจส่วนใหญ่ดันไปอยู่ใน อุซเบกิสถาน จึงทำให้เกิดข้อสงสัยว่ามันจะเป็นไปได้ไหมที่ทาง บาร์เซโลน่า ซึ่งมีสายสัมพันธ์กับทาง อุซเบ จะมีส่วนร่วมในการเทคโอเวอร์ เรอัล มายอร์ก้า

และเครื่องหมายคำถามก็ได้กระจ่างภายหลัง เมื่อ El Mundo หนังสือพิมพ์ประจำแคว้น กาตาลัน ได้ไปค้นชื่อของผู้บริหารของบริษัท Zemorax ปรากฏว่า บริษัทนี้นำโดยนักธุรกิจนามว่า Miradil Djalalov... ซึ่งเป็นคนเดียวกับที่มีชื่อเป็นเจ้าของสโมสร บุนยอดกอร์ เรื่องนี้จึงเป็นอีกประเด็นนึงที่ ลาปอร์ต้าถูกนำมาโจมตีหลายต่อหลายครั้ง

เมื่อสองเรื่องนี้ถูกสื่อขุดคุ้ยออกมา ทำให้เรื่องภาพลักษณ์ของสโมสรเน่าไปพักนึงเลยทีเดียว ทั้งนี้คนที่ถูกโจมตีมากสุดก็หนีไม่พ้น ลาปอร์ต้า ซึ่งเป็นคนอยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมด

มีผู้คนถือว่าจำนวนมากทีเดียวที่ต่อต้านประธาน โจน ลาปอร์ต้า โดยบอกว่าถึงแม้ผลงานในสนามจะถือว่าประสบความสำเร็จ และเป็นที่ยอมรับว่า ดีที่สุดตั้งแต่ก่อตั้งสโมสรมา แต่ความสำเร็จเหล่านั้นมันไม่ได้เกิดเพราะการบริหารของบอร์ด แต่เป็นความสำเร็จทีเกิดจากผู้เล่น และ ผู้จัดการทีมมากกว่า ส่วนเรื่องการเงิน ทั้งๆที่เป็นทีมที่ประสบความสำเร็จมากมายในช่วงที่ผ่านมา เรียกว่าประสบความสำเร็จสูงที่สุดในบรรดาสโมสรในยุโรปก็ว่าได้ แต่กลับทำเงินเข้าคลังไม่ได้เท่าที่ควร เมื่อเทียบกับสโมสรชั้นนำอื่นๆ

ส่วนใหญ่ในผู้คนจำนวนนั้น(พวกที่ไม่ชอบ) รับไม่ได้ที่เขาใช้สโมสร บาร์เซโลน่า เพื่อปูทางตัวเองไปสู่วงการการเมืองในอนาคต พวกเขาคิดว่าสโมสรอย่าง บาร์เซโลน่า ซึ่งเป็นตัวแทนของคนชาวกาตาลัน ไม่ใช่บันไดให้ใครมาปีนเพื่อหวังผลกับตัวเอง

อีกจำนวนหนึ่งก็โจมตีเรื่องความไม่โปร่งใสของบอร์ดบริหารชุดนี้ ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ ลาปอร์ต้า รับรองตั้งแต่วันแรกที่ก้าวเข้าสู่สโมสร นอกจากเหตุการณ์อื้อฉาวใน อุซเบกิสถาน แล้ว ยังมีเรื่องไม่โปร่งใสอีกมากมายที่เป็นเป้าโจมตี ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ที่ลาปอร์ต้าได้จ้างคนมาสืบรองประธานของสโมสร 4 คน จนเกือบเป็นเรื่องใหญ่ แต่ภายหลังก็เคลียร์กันรู้เรื่อง


หรืออย่างเหตุการณ์ล่าสุดหลังแมตช์กับ เรอัล มาดริด ที่ลาปอร์ต้าดันไปฉลองซะหนัก หลายๆฝ่ายก็ได้เห็นเหตุการณ์ดังกล่าวและออกมาโจมตีว่าเป็นถึงประธานสโมสร ไม่น่าจะทำแบบนี้ ทำให้ภาพลักษณ์สโมสรเสียหมด... ก็อย่างนี้แหละ จะเลือกตั้งอยู่แล้วช่วงนี้ทำอะไรก็เลยโดนจับตาเยอะหน่อย

จะเป็นประธานที่ดี หรือไม่ดี มันก็ไม่สามารถเปลี่ยนสิ่งที่คนในอนาคตมองกลับมาได้ว่า "โจน ลาปอร์ต้า เป็นประธานของบาร์เซโลน่า ถึงช่วงซัมเมอร์ปี 2010 โดยช่วงระหว่างที่เขาเป็นถือเป็นช่วงเวลาที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร" ได้
blog comments powered by Disqus
ติดต่อ โฆษนา แนะนำ สอบถาม ฝากข่าวประชาสัมพันธ์ ได้ที่
 
Web Analytics