LFPTH : ลาลีก้า สเปน ลีกอันดับหนึ่งของวงการลูกหนัง

ตอนนี้ทางบล็อคได้ทำการ เปลี่ยนระบบ comment จากของ blogger เป็นระบบ disqus.... อ่านรายละอียดเพิ่มเติม (คลิ๊ก)

วันอาทิตย์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

มานูเอล เปเยกรินี่....เหยื่อ?


เอร์ดูอาโด้ อินด้า ผู้อำนวยการของหนังสือพิมพ์ MARCA (เคยเขียนถึงเขาในบทความก่อนหน้านี้แล้ว) ได้กล่าวหลังจบซีซั่นนี้ว่าซีซั่นนี้ของ เรอัล มาดริด เป็น "un fracaso total" หรือ ทุกอย่างที่ผ่านมามัน "ล้มเหลว" เนื่องจากการทุ่มทุนสร้างทีมด้วยงบประมาณมหาศาลของ ฟลอเรนติโน่ เปเรซ สุดท้ายไม่ได้ผลตอบแทนในสนามกลับมาแม้แต่อย่างเดียว เพราะฉะนั้น ผู้ที่ดูแลในส่วนผลงานในสนามอย่าง มานูเอล เปเยกรินี่ ควรจะออกไปหางานทำใหม่ได้แล้ว !!

ซึ่งก็มีคนอยู่กลุ่มนึงครับ ที่เห็นด้วยกับคำพูดของ เอร์ดูอาโด้ อินด้า....ในขณะเดียวกัน แฟนๆ เรอัล มาดริด กลุ่มใหญ่ๆอีกกลุ่มนึงที่ไม่เห็นด้วย โดยผมนำเอาหลักฐานที่พอไปค้นเจอบ้างมาให้ดู (เดี๋ยวจะหาว่าโมเมขึ้นเอง)

ผลโหวตจากหนังสือพิมพ์ El Confidential
- เปเยกรินี่ ควรโดนปลดรึเปล่ีา? - ไม่ควร 66% ควร 34%

ผลโหวตจากหนังสือพิมพ์ AS
- จบฤดูกาลแล้ว เรอัล มาดริด จำเป็นต้องเปลี่ยนโค้ชรึเปล่า? - เปลี่ยน 18% ไม่เปลี่ยน 82%

ผลโหวตจากหนังสือพิมพ์ AS
- มูรินโญ่ จะเป็นโค้ชเมื่อหมดฤดูกาล? - เห็นด้วย 37% ไม่เห็นด้วย 63%

ผลโหวตจาก Cadenaser
- เปเยกรินี่ หรือ มูรินโญ่? - เปเยกรินี่ 78% มูรินโญ่ 22%

(สังเกตได้ว่าไม่มีโพลล์ของ MARCA ซักอันที่ทำออกมาเกี่ยวข้องกับเรื่องประเด็นนี้....)

....ในช่วงที่ผ่านมา นอกจากแฟนบอลแล้ว หลายๆคนที่อยู่ในวงการลูกหนังก็ถูกถามถึงการตัดสินใจครั้งนี้....ซึ่งก็ไม่น่าแปลกว่าหลายๆคนก็สงสัยในการตัดสินใจครั้งนี้ของผู้บริหาร....ไม่ว่าจะเป็นบุคคลในวงการภายนอกสโมสรอย่าง เปรเซโด, ราฟาเอล เบนิเตซ, หรือแม้แต่ โยฮัน ครัฟฟ์ และ เป็ป กวาดิโอล่า....ไม่ว่าจะเป็นอดีตโค้ชอย่าง ฆวนเด้ รามอส, แบรนด์ ชูสเตอร์, บีเซนเต้ เดล บอสเก้ ก็ออกแสดงความเห็นว่า เปเยกรินี่ ไม่สมควรโดนคำวิจารณ์อย่างที่เป็นอยู่....

ในย่อหน้าที่ผ่านมา เอาเข้าจริงๆแล้ว มันก็ไม่ได้สำคัญอะไรเท่าไร เพราะถึงแม้พวกเขาจะเป็นคนในวงการ แต่สุดท้ายแล้ว เขาก็ไม่ไ่ด้เป็นบุคคลที่อยู่ในสโมสร ในบอร์ดบริหาร...

ไอ้สิ่งที่น่าสนใจมันอยู่ตรงนี้แหละครับ...

ในบอร์ดบริหารชุดนี้มี เปเรซ เป็นประธาน เป็นหัวหน้าใหญ่....โดยเขามีผู้ให้คำแนะนำอย่าง ซีนาเดน ซีดาน, เอมิลิโอ บูตราเกนโญ่, มิเกล ปาร์เดซ่า, ฆอร์เก้ บัลดาโน่, ทั้งหมดเป็นสมาชิกใน ทั้งหมดนี้เป็นเหล่าบุคคลที่แฟนๆ มาดริดิสต้า นับถือ....น่าตกใจว่า คำแนะนำของทั้งหมดนี้ กลับตรงกันข้ามกับสิ่งที่ ฟลอเรนติโน่ เปเรซ กำลังจะทำ...

นั่นเป็นเพราะอะไร? ทำไมผู้คนทั้งๆที่ เปเยกรินี่ ไม่ได้แชมป์อะไรเลย ทำไมพวกเขาถึงไม่อยากเปลี่ยนผู้จัดการทีม? คำตอบง่ายๆคือ เขา "เรียนรู้" ไงครับ

แฟนๆเริ่มเอือมระอากับแนวทางการบริหารทีม

Queiroz (2003–04) • Camacho (2004) • García Remón (2004) • Luxemburgo (2004–05) • López Caro (2005–06) • Capello (2006–07) • Schuster (2007–08) • Ramos (2008–09) • Pellegrini (2009-10) • Mourinho (2010 -)

ผ่านมาแล้ว 7 ซีซั่น...เรอัล มาดริด ใช้โค้ชรวมทั้งหมด 10 คน (รวมคนที่กำลังเข้ามารายล่าสุดด้วย)....ไม่ว่าจะประธานหน้าไหนเข้ามาทำงาน วิธีการแก้ปัญหาของพวกเขาเมื่อไม่ได้แชมป์ล้วนเหมือนกันหมด นั่นคือปลดโค้ช ซื้อนักเตะใหม่มหาศาล....แล้วสุดท้ายจบลงยังไง? ก็เหมือนเดิม ปลดโค้ช ซื้อๆๆๆ...

...มันเริ่มต้นขึ้น หลังจากจุดจบของชายคนนี้...

วิธีการแก้ปัญหาของ เรอัล มาดริด ชัดเจนว่า มันไม่สามารถแก้ปัญหาได้....ในความคิดของผม (และแฟนๆ เรอัล มาดริด ส่วนใหญ่) ผมคิดว่าการแก้ปัญหาโดยวิธีนี้สิ ที่เรียกว่า "un fracaso total"

โค้ช แต่ละคนที่เข้ามาทำทีม มีสไตล์ของแต่ละคนแตกต่างกันออกไป แล้วแต่ละคนเมื่อเข้ามาทำงาน ก็พยายามใส่สไตล์การทำทีมของตนเอง ถ่ายทอดให้กับนักเตะ เพื่อให้แสดงออกมาในสนาม และ ในขั้นตอนการดำเนินการถ่ายทอดปรัชญานั้นๆ มันไม่ใช่แบบว่าใส่ USB เข้าเครื่อง ลากเม๊าส์ เลือกโปรแกรม เอาลง กด Safety Remove แล้วก็ดึงออกเป็นอันเสร็จ ไม่ใช่ครับ! มันต้องใช้เวลาครับ

นักเตะต่างคนต่างมาจากคนละที่ ยกตัวอย่างซัมเมอร์ล่าสุด เรอัล มาดริด ได้นักเตะมาใหม่เยอะแยะมากมาย ถ้่าลองนับดูในตัวจริงปาไปประมาณครึ่งทีมได้....การที่จะให้นักเตะครึ่งทีม ที่มองหน้ากันครั้งแรกเหมือนเป็นคนแปลกหน้า มาเล่นฟุตบอล ภายใต้ปรัชญาการทำทีมของผู้จัดการทีมคนเดียว แล้วยังต้องเล่นให้เข้ากันด้วย โอกาสที่จะให้คลิ๊กกันเลยมันก็เป็นไปได้ยาก


เปเยกรินี่ ก่อนที่จะมาคุม เรอัล มาดริด เขารับงานคุมทีม บียาร์เรอัล ใบปี 2004 "สร้าง" เรือดำน้ำสีเหลือง ขึ้นมาด้วยน้ำมือของเขาเอง (สมัยนั้น บียาร์เรอัล คงประมาณ เกตาเฟ่ ตอนนี้...ประมาณ...) เขาเปลี่ยนจากทีมเล็กๆ กลางตาราง ทีมนึงที่ เป้าหมายหลัีกคือการอยู่รอด ส่วนโบนัสคือการได้ไปฟุตบอลยุโรป กลายเป็นทีมแถวหน้าของยุโรป ขึ้นมาเป็นตัวสอดแทรกลุ้นแชมป์ โดยมีสไตล์การเล่นที่มีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง เขาพา บียาร์เรอัล เข้ารอบรองชนะเลิศฟุตบอล ยูฟ่า แชมป์เปี่ยนส์ลีก โดยเขี่ย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในรอบแบ่งกลุ่มตกรอบ เข้าเป็นที่ 1 ของกลุ่ม ผ่าน อินเตอร์ มิลาน แต่สุดท้ายก็มาตกรอบด้วยน้ำมือของ อาร์เซน่อล....น่าเสียดายลูกจุดโทษของ ริเควเม่ ที่ยิงไปติดเซฟของ เลห์มัน ในนาทีสุดท้ายของการแข่งขัน....ทำให้ บียาร์เรอัล ของ มานูเอล เปเยกรินี่ อกหักอดเข้าชิง...


เป้าหมายหลักของ เปเยกรินี่ ในซีซั่นนี้ คงไม่พ้นการทำทีมเข้าชิงชนะเลิศฟุตบอล ยูฟ่าแชมป์เปี่ยนส์ ลีก ที่ เบอร์นาบิว...ดูจากทรัพยากรณ์ที่ล้นเหลือของ เรอัล มาดริด....มันไม่น่าจะเหนือฝีมือของ เปเยกรินี่ ดูจากผลงานที่เคยทำมา....แต่มันไม่พอครับ....ที่ บียาร์เรอัล ถึงเขาไม่ได้มีเงิน มีทรัพยากรณ์อะไรเท่ากับที่มีในตอนนี้ก็จริง แต่เขามีสิ่งๆนึง ที่ เรอัล มาดริด ไม่มี เป็นทรัพยากรณ์ที่เงินซื้อไม่ได้....นั่นคือ "เวลา" และ ความอดทนของผู้บริหาร ครับ

การที่ เรอัล มาดริด ไม่ได้แชมป์อะไรเลยในปีนี้ ไม่ได้แปลว่าผลงานไม่ดีนะครับ เปเยกรินี่ ได้ทำลายสถิติต่างๆมากมายที่เกิดขึ้นในอดีต เขาพา เรอัล มาดริด ยิงไปถึง 102 ประตู เก็บไป 96 คะแนน....96 คะแนน!! ก่อนหน้าฤดูกาลจะเริ่ม ถ้ามีคนถามผมว่า ให้ เรอัล มาดริด จบซีซั่นที่ 96 คะแนนจะเอาไหม ผมคงไม่ต้องคิดเลย 96 คะแนน มันต้องแชมป์แล้ว!! แต่อย่าลืมนะครับ ว่าทีมคู่แข่งของ มาดริด คือ บาร์เซโลน่า หนึ่งในชุดที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์


ถ้าลองเอามาเทียบกับผู้จัดการทีมคนก่อนๆในประวัติศาสตร์สโมสร เปเยกรินี่ เป็นผู้จัดการทีมที่เก็บชัยชนะ คิดเป็น % ต่อนัดได้ดีที่สุดในประวัติศาสตร์อันยาวนานของสโมสร! 71% จาก 42 เกมส์ที่ลงแข่งขัน สองฤดูกาลสุดท้ายที่ได้แชมป์ ผู้จัดการทีม เรอัล มาดริด อย่าง ฟาบิโอ คาเปลโล่ และ แบรนด์ ชูสเตอร์ เก็บชัยชนะ คิดเป็น % ได้เพียงแค่ 56% จาก 50 เกมส์ และ 66% จาก 53 เกมส์ ตามลำดับ....ขนาดผู้จัดการทีมที่ได้รับการยกย่องว่าประสบความสำเร็จมากสุดในประวัติศาสตร์สโมสรอย่าง มิเกล มูนยอซ ยังเก็บชัยชนะได้เพียง 59% จากทั้งหมด 595 เกมส์เลย

มันอาจจะมีบางนัดบ้างที่ทำให้แฟนๆ มาดริด ผิดหวัง ไม่ว่าจะเป็นการพ่ายแพ้ต่อ เอซี มิลาน คาบ้าน, การตกรอบ โคปาเดลเรย์ ชนิดอับอายขายขี้หน้ากันทั่วบ้างทั่วเมือง, การแพ้ บาร์เซโลน่า เหย้าเยือน, การทำได้เพียงแค่เสมอ ลียง ในบ้านตัวเอง ซึ่งนัดที่น่าผิดหวังเหล่านี้ก็เป็นส่วนสำคัญทำให้ เรอัล มาดริด มือเปล่าในซีซั่นนี้....แต่นี่คือฟุตบอลครับ ผู้อำนวยการกีฬาซื้อนักเตะ ผู้จัดการทีมบริหารนักเตะ นักเตะลงไปทำผลงาน....การจะมาโยนความผิดให้ ผู้จัดการทีม คนเดียวมันไม่ถูกครับ ควรจะรับผิดชอบร่วมกัน ให้โอกาส ยอมรับความผิดพลาดของตนเอง แล้วค่อยๆปรับ แทนที่จะไปปลดโค้ช จ้างโค้ชใหม่ แล้วก็เจอปัญหาใหม่ๆ แล้วก็ปลดโค้ช มันไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหาครับ มันเป็นวิธีการหนีปัญหามากกว่า


ส่วนถ้าใครบอกว่า เปเยกรินี่ ที่ทำมาผลงานแต่ละนัดก็เก่งแต่ทีมเล็กๆ แบบนี้เอาใครมาคุมก็ได้วะ นักเตะระดับนี้เกมส์ใหญ่ๆมันต้องได้ลุ้นกว่านี้ แต่นอกจากผลงานในสนาม การดูแลนักเตะนอกสนาม ซึ่งเรื่องแบบนี้มันใช้ตัวเลขวัดกันไม่ได้ เขาทำได้ดีเรียกว่าไม่มีจุดบอดเลยก็ว่าได้ การนำซุปเปอร์สตาร์แต่ละคนมาอยู่ด้วยกัน ต่างคนก็มาจากต่างถิ่น ต่างคนก็เป็นเสือในถ่ำเก่าของตน แต่ เปเยกรินี่ เอาอยู่....กูตี มีปัญหา เปเยกรินี่ รับมือได้อย่างดีเยี่ยม พยายามให้เรื่องราวมันเงียบหายไปเอง....


มีข่าวโดนกดดันตลอด (ส่วนใหญ่มาจากฝั่ง MARCA โดนทั้งฤดูกาลจริงๆ) แต่เขาก็รับมือกับสื่อได้อย่างดีเยี่ยม....เขากลายเป็นที่รักของแฟนๆบอล และ นักเตะ (โฆเซ่ ดิอาซ อดีตผู้อำนวยการ MARCA ก่อนที่ อินด้า จะเข้ามา ซึ่งเขาก็เป็นคนที่มีเส้นสาย และ เป็นที่นับถือในวงการ ได้เขียนเรื่องราวความผูกพันของนักเตะและโค้ชไว้ที่นี่) ทำให้เรื่อง "ทีม สปิริต" จากทีมที่เคยมีข่าวว่ามีการแบ่งก๊ก แบ่งฝ่าย กลายเป็นจุดแข็งของทีมชุดนี้อย่างไม่น่าเชื่อ


ผมเสียใจครับที่สถานการณ์มันออกมาในรูปแบบที่มันเป็นอยู่ นั่นคือ มานูเอล เปเยกรินี่ ทำหลายสิ่งหลายอย่างที่น่าประทับใจ แฟนๆให้การสนับสนุน แต่ผู้บริหารระดับสูงของทีมกลับไม่เห็นคุณค่า สำหรับผมและแฟนๆหลายๆคน ถึงเขาไม่ชนะถ้วยรางวัลอะไร แต่เขาชนะใจอย่างน้อยๆผมคนนึงแหละครับ

บทความนี้เป็นบทความแรกในบทความเกี่ยวกับการตัดสินใจครั้งนี้ของ ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ตัดสินใจปลด มานูเอล เปเยกรินี่ และนำ โฆเซ่ มูรินโญ่ มาร่วมทีม บทความต่อไปจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการตัดสินใจครั้งนี้ โดยเพ่งเล็งไปที่ ฟลอเรนติโน่ เปเรซ เป็นหลัก ยังไงก็รออ่านละกันหากสนใจ....บทความนี้ถูกเขียนขึ้นมาจากความเห็นส่วนตัวด้วย เพราะฉะนั้น ถ้าใครไม่เห็นด้วยยังไงก็ลองคุยๆกันได้! อยากรู้ความเห็นเพื่อนๆเหมือนกัน (:
blog comments powered by Disqus
ติดต่อ โฆษนา แนะนำ สอบถาม ฝากข่าวประชาสัมพันธ์ ได้ที่
 
Web Analytics