เลือกตั้ง I : โจน ลาปอร์ต้า (2003-2010)
เลือกตั้ง II : โจน ลาปอร์ต้า (2003-2010)
เลือกตั้ง III : ขึ้นเวที..!
เลือกตั้ง IV : ซานโดร โรเซลล์
เลือกตั้ง V : เราเลิกกันเถอะ!!
เลือกตั้ง VI : เลือกตั้ง VI : อนาคตสโมสร...อนาคต โซเรียโน่...
เลือกตั้ง VII : เป๊ป กวาดิโอล่า
เลือกตั้ง VIII : เป๊ป กวาดิโอล่า (II)
เลือกตั้ง IX : เฮ้ยยยย มันเกิดอะไรขึ้น!?!
เราข้าม "เลือกตั้ง VIII" มาหลายทีและ ถึงเวลาซักทีและ ในเลือกตั้ง VII เราได้พูดถึงบทบาทที่เป็นไปได้ของ เป็ป กวาดิโอล่า หลังการเลือกตั้ง นั่นคือการควบตำแหน่ง ผู้จัดการทีม และ ตำแหน่งผู้อำนวยการกีฬา ออกแนวๆเหมือนผู้จัดการทีมในอังกฤษ แล้วก็ทิ้งท้ายไว้ว่าในตอนแปดเราจะมาพูดถึงข้อดีข้อเสีย...
จริงๆแล้วมันก็ควรจะดีนะ.....เพราะอย่างว่า เป็ป กวาดิโอล่า ในความเห็นแฟนๆส่วนใหญ่ก็เป็นคนที่น่าเชื่อถือ รักสโมสร และ น่าจะเป็นคนที่สโมสรไว้ใจฝากอนาคตไว้ได้ในระยะยาว....
แน่นอน.....ผู้จัดการทีมอย่าง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน หาไม่ได้ง่ายๆ ส่วนใหญ่ก็มา ปีสองปี แล้วก็ออกไป ประโยชน์หลักของ ผู้อำนวยการกีฬา คือความต่อเนื่องของสโมสร ไม่ใช่ปล่อยให้ผู้จัดการทีมอยากทำอะไรก็ทำโดยไม่ได้มองถึงสโมสรในระยะยาว ถ้าจะให้ผู้จัดการทีมที่เข้ามาแล้วก็ออกไป ซื้อตัวผู้เล่นตามใจชอบทุกๆคน ทีมจะหาความต่อเนื่องได้ไหม?
แต่อย่างที่บอกไป แฟนๆส่วนใหญ่คิดว่า เป็ป กวาดิโอล่า เป็นคนที่สโมสรสามารถไว้ใจฝากอนาคตได้ เพราะฉะนั้น ความต่อเนื่องของทีม หาก เป็ป จะอยู่ยาวๆแล้ว มันก็น่าจะเป็นเขาที่อยากจะสร้างทีมของเขาขึ้นมาเอง สามารถเีรียกได้เต็มปากเต็มคำว่า "เป็ป ทีม"
ผนวกกับประเด็นของ ซิกิ เบกิริสไตน์ ผู้อำนวยการปัจจุบัน ที่แฟนๆหลายๆคนไม่ชอบขี้หน้า เนื่องจากการซื้อขายนักเตะของเขาแต่ละคนนี่ น่าปวดหัว (จริงๆมันก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้นหรอก) แฟนๆวิจารณ์ว่า ผู้เล่นบางคน เป็ป ไม่ไ้ด้ต้องการ แล้วเจ้าตัวก็ยังดันทุรังซื้อมาอีก แถมเป็นคนที่เจรจาไม่ค่อยเก่ง ส่งผลทำให้การซื้อขายของหลายๆนักเตะแพงเกินกว่าที่ควรจะเป็น (และในขณะเดียวกัน ทำให้เวลาขายนักเตะ ขายไม่ได้ราคาเท่าที่ควร) ไม่เหมาะสมกับเป็นผู้อำนวยการกีฬาของสโมสรที่ดีที่สุดในโลก
อยู่กับทีมมาตั้งแต่ปี 2003 ซื้อตัวก็ดีบ้างไม่ดีบ้าง (ซื้อตัวที่ไม่ดีนี่ บางคนใช่ว่ามาแล้วผลงานไม่ดีนะ แต่โดนวิจารณ์ตรงที่มาแพงเกิน ประมาณนี้) พวกที่โดนวิจารณ์หลังๆก็ไม่พ้น กาเซเรส, เคียร์ริสัน, และ เอนริเก้ สามคนเป็นดาวรุ่ง ประสบการณ์น้อย ซึ่งก็พอดูมีแวว ซื้อมานี่ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรให้แฟนๆบ่น แต่ที่โดนบ่นก็เพราะ ค่าตัวของสามคนนี้รวมกันสูงถึง 38 ล้านยูโร! แล้วที่ยิ่งไปกว่านั้นคือ เป็ป กวาดิโอล่า ไม่ได้ต้องการสามคนนี้ ผลสุดท้ายแต่ละคนก็ต้องย้ายออกไปในฐานะนักเตะยืมตัวระหว่างที่ตนยังไม่อยู่ในแผนทำทีม
นอกจากสามคนแรกแล้ว คนอื่นๆที่โดนวิจารณ์ก็เป็นการซื้อที่โดนวิจารณ์หนักๆในช่วงหลังๆ ก็ไม่ใช่ใคร ดิมิโทร ชิกรินสกี้ นั่นเอง มาในราคาค่้าตัวถึง 25 ล้านยูโีร
เหตุจากแฟนๆวิจารณ์กันหนัก ซิกิ จึงประกาศไปให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลยว่า เขาจะไม่อยู่ต่อหลังจบการเลือกตั้ง ไม่ว่าใครจะเข้ามานั่งตำแหน่งประธานก็ตาม
ด้วยเหตุผลที่กล่าวไป ถ้า ซิกิ ออกตามที่บอกจริงๆ เป็ป ก็น่าจะมาเป็นคนที่มาควบตำแหน่งของเขา ร่วมกับตำแหน่งปัจจุับันไปด้วยเลย แต่มันจะดีไปหมดขนาดนั้นเลยหรอ? ไม่มั้ง...
แน่นอนครับ เมื่อมีดี ก็ต้องมีเสีย อะไรมันจะดีไปหมด คงเป็นไปไม่ได้
เป็ป กวาดิโอล่า กุนซือหนุ่มของ บาร์เซโลน่า ขึ้นชื่อในฐานะโค้ชหลายๆเรื่อง จนแฟนๆยกย่องให้เป็น.....โค้ชบอลที่เซ็กซี่ และ แต่งตัวดีที่สุดในโลก.....แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น....อีกสองสิ่งที่เขาขึ้นชื่อคือ ความทุ่มเทของเขา ให้กับสโมสรรักอย่าง บาร์เซโลน่า และ ความสนิทสนมของเขา และ นักเตะภายในทีม
ผู้คนที่ไม่เห็นด้วยกับการเลื่อนตำแหน่ง เป็ป หลายๆคนก็เป็นเพราะ เป็นห่วงเขา ไม่ใช่ไม่เชื่อในความสามารถ แต่เป็นห่วงว่าการควบสองตำแหน่งด้วยกันในสโมสรใหญ่อย่าง บาร์เซโลน่า คงเป็นงานหนัก ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม แล้วในเมื่อ เป็ป เป็นคนที่ทุ่มเทมากๆ แม้ว่า เป็ป จะไม่ได้ลงไปเล่นบอล เตะเองเหมือนแต่ก่อน งานหนักขนาดนี้อาจจะทำให้ เป็ป ในฐานะโค้ข หมดเหมือนกัน
สำหรับอีกเรื่องนึงที่น่าห่วงคือ การฝึกซ้อมของทีม ในเวลานี้ เป็ป กวาดิโอล่า เป็นคนคุมทีมซ้อมทุกๆวัน ดูแลนักเตะเป็นอย่างดี เป็ป ไม่เหมือนกับโค้ชทีมอื่นๆ ด้วยวัยของเขาที่ไม่ได้แตกต่างกับนักเตะมากนัก เขาและนักเตะจึงสนิทกันได้อย่างไม่ยาก ทำให้สปิริตภายในทีมของ บาร์ซ่า กลายเป็นจุดแข็ง
ในขณะเีดียวกันถ้า เป็ป ต้องไปควบสองตำแหน่ง ความได้เปรียบตรงนี้ในการฝึกซ้อมอาจจะหายไป เพราะ เป็ป คงไม่สามารถทุ่มเวลาทั้งหมดของเขาควบคุมการซ้่อมเหมือนเมื่อก่อนได้ ความใกล้ชิดระหว่างนักเตะอาจจะน้อยลง อาจจะเป็น ติโต้ บียาโนว่า ที่ขึ้นมาทำแทน เป็นหัวหน้าโค้ช อาจจะมีบ้างวันสองวันต่ออาทิตย์ที่ เป็ป อาจจะลงมาคุมการซ้อมเอง แต่ที่แน่ๆ บรรยกาศโดยรวมคงไม่เหมือนเมื่อก่อนแน่ๆ
ทั้งนี้ทั้งนั้น มันจะเกิดขึ้นหรือไม่นั้น คงต้องรอดูนโยบายของผู้ชนะการเลือกตั้งกันอีกที....
คุณหล่ะคิดอย่างไร?
